มีคำกล่าวว่าหน้าที่กับความรักมักไม่ไปด้วยกัน และบางครั้งสิ่งที่ถูกต้อง (ตามค่านิยมของยุคสมัย) ก็ไม่ใช่อะไรที่น่าถูกใจ (สำหรับเจ้าตัว) เสมอไป แต่ถ้าจะมีใครที่สามารถใช้ชีวิตที่ถูกต้องและถูกใจไปพร้อมๆ กัน คนๆ นั้นอาจเป็นเจ้าชายฟิลิป ดยุกที่ 1 แห่งออร์เลอ็อง น้องชายพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ได้รับสมญานามว่า “มองซิเออร์แห่งแวร์ซาย”
ฟิลิปเป็นลูกชายคนรองของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 กับพระนางแอนน์ แห่งออสเตรีย ต่างจากพี่ชายที่ได้รับการเชิดชูเป็นกษัตริย์ผู้เจิดจรัสเช่นดวงอาทิตย์ ฟิลิปมีชีวิตที่ชัดเจนตั้งแต่เด็ก เขาชอบสิ่งของสวยงาม หลงใหลในแฟชั่น และที่สำคัญ ชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงจนผู้เป็นแม่เรียกฟิลิปว่า “ลูกสาวตัวน้อยของแม่”
กล่าวกันว่าเหตุผลที่พระนางแอนน์สนับสนุนการแต่งกายข้ามเพศของลูกชาย มาจากเหตุผลทางการเมืองเป็นสำคัญ พระนางแอนน์นั้นไม่ต้องการให้หลุยส์กับฟิลิปแย่งซีนกันเหมือนดังที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 มักมีปัญหาขัดแย้งกับน้องชายคนรอง – เจ้าชายกาสตง ดยุกแห่งออร์เลอ็อง เลยเลี้ยงลูกชายคนโตให้เป็นชายที่มีภาพลักษณ์เปี่ยมด้วยอำนาจ ส่วนลูกชายคนรอง ทรงเลี้ยงให้มีภาพลักษณ์อ่อนโยนกว่า นอกจากเสื้อผ้าแบบสตรี พระนางแอนน์ยังชอบให้ฟิลิปอยู่กับของสวยงาม จนเป็นที่มาของรสนิยมการแต่งกายที่ดูจะ over the top ของฟิลิปตลอดชีวิต
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แม้ไม่เชิงชื่นชมนิสัยแต่งหญิงของน้องชาย แต่ก็ไม่ได้ห้าม กษัติรย์แห่งพระอาทิตย์เห็นตรงกับพระมารดา ไม่ต้องการให้น้องชายที่ในมุมหนึ่งเป็นสายเลือดใกล้ แต่ก็อาจเป็นเสี้ยนหนามของบัลลังก์ขึ้นมาบดบังรัศมี ทรงชอบที่จะผลักฟิลิปออกจากศูนย์กลางแห่งอำนาจ ปล่อยให้น้องชายสนุกกับงานอดิเรกต่อไป เพราะเป็นการกำจัดเสี้ยนหนามทางการเมืองไปในตัว
ฟิลิปมียศแต่กำเนิดเป็นดยุกแห่งอองชู แต่เมื่อเจ้าชายกาสตง พระเจ้าอาผู้ดำรงตำแหน่งดยุกแห่งออร์เลอ็องสิ้นพระชนม์โดยไม่มีทายาทชาย ฟิลิปจึงได้ย้ายมาสืบทอดดัชชี่แห่งออร์เลอ็องแทน เพราะเป็นตำแหน่งอย่างเป็นทางการของน้องชายกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส นอกจากตำแหน่งทางการอย่างยืดยาว ฟิลิปมักถูกเรียกสั้นๆ ว่า “มองซิเออร์” ซึ่งเป็นคำเรียกแทนตัวน้องชายกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส
มองซิเออร์แห่งแวร์ซาย ดยุกแห่งออร์เลอ็องคนใหม่ได้รับคำบรรยายว่าเป็นหนุ่มรูปงาม มีเสนห์ และเฉลียวฉลาด เขาคบหาผู้ชายมากหน้าหลายตาและเป็นที่รู้กันว่าทรงโปรดเสด็จไปไหนมาไหนกับเด็กหนุ่มรูปงามอายุน้อย รายชื่อคนรักของดยุกแห่งออร์เลอ็องมีตั้งแต่เจ้านายสูงศักดิ์ไปจนถึงนักดนตรีและเด็กรับใช้ แต่ไม่มีใครจับจิตจับใจดยุกหนุ่มรูปงามมากไปกว่า เชอวาลิเยร์ เดอ ลอเร ขุนนางหนุ่มผู้ได้รับคำบรรยายว่า ‘รูปงามเหมือนเทพบุตร’
ฟิลิปกับเชอวาลิเยร์คบหากันอย่างออกหน้าออกตา เชอวาลิเยร์ไม่เคยแต่งงานและจะดำรงฐานะคนรักอันดับหนึ่งของดยุกแห่งออร์เลอ็องไปตลอดชีวิต อย่างไรก็ดี ฟิลิปนั้นมีหน้าที่ของเจ้าชาย ทรงถูกคาดหมายให้แต่งงานและผลิตทายาทให้ราชวงศ์ ในปี 1661 หลังจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทำหน้าที่ของพระองค์ในฐานะกษัตริย์ ทรงเข้าพิธีสมรสกับเจ้าหญิงมาเรีย เทเรซา ราชธิดากษัตรย์สเปนเพื่อยุติความบาดหมางยาวนานของสองชาติ ดยุกแห่งออร์เลอ็องก็ทำหน้าที่ของพระองค์เช่นเดียวกัน ทรงเข้าพิธีสมรสกับเจ้าหญิงเฮนเรียตตา ธิดากษัตริย์ชาร์ลที่ 1 เพื่อรับรองสัญญาพันธมิตระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส
เฮนเรียตตาสาวน้อยแสนสวยจากอังกฤษถูกสามีกล่าวซึ่งๆ หน้า “ฉันรักเธอไม่ได้หากไม่ได้รับคำอนุญาตจากคนรัก (หมายถึงเชอวาลิเยร์ เดอ ลอเร)” เฮนเรียตตาหาวิธีให้สามีหันมาสนใจด้วยการคบหาชายหนุ่มมากหน้าในราชสำนัก ฟิลิปตอบกลับด้วยการคบหาคนรักไม่น้อยไปกว่า และส่วนมาก เป็นเด็กผู้ชาย ความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาย่ำแย่มากกระทั่งมีข่าวลือว่าลูกๆ ที่เฮนเรียตตาคลอดให้ฟิลิปเป็นลูกที่เกิดกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เฮนเรียตตาใช้ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับพี่สามีขอให้พระราชาขับไล่ชู้รักของสามีออกจากราชสำนัก แต่ดยุกแห่งออร์เลอ็องก็หาวิธีพาคนรักกลับมาภายในเวลาไม่ถึงเดือน เฮนเรียตตาเสียชีวิตอย่างกระทันหันตอนอายุเพียง 26 ปี และมีข่าวลือว่า เชอวาลิเยร์ เดอ ลอเร เป็นผู้วางยาพิษเธอเพื่อแก้แค้น (แต่ผลการชันสูตรศพชี้ชัดว่าเจ้าหญิงคนงามเสียชีวิตจากปัญหาเรื่องสุขภาพ)
หลังการจากไปของเฮนเรียตตา ตำแหน่งที่ว่างอยู่ถูกนำเสนอให้เจ้าหญิงมากมายในยุโรป พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พยายามหาว่าที่เจ้าสาวคนใหม่ที่ให้ผลประโยชน์มากที่สุดกับฝรั่งเศส หลายคนปฎิเสธหลังเห็นจุดจบที่ไม่สวยงามของภรรยาคนก่อน การเจรจามาจบลงที่เอลิซาเบธ ชาร์ล็อต หรือ “ลิซ่าล็อต” เจ้าหญิงแห่งพาลาทีน รัฐเล็กๆ ในเยอรมันแต่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เพราะเป็นเส้นทางที่พระเจ้าหลุยส์ต้องการใช้ในการทำสงครามกับเนเธอร์แลนด์
เจ้าหญิงแห่งพาลาทีนได้รับคำบรรยายว่า เป็นคนง่ายๆ แต่ตรงไปตรงมา เธอไม่ได้สวยงามน่ามองเหมือนภรรยาคนก่อน ในทางตรงกันข้าม เธอออกจะไม่สนใจเรื่องความสวยความงามจนฟิลิปบ่นว่า “ฉันจะนอนกับผู้หญิงคนนี้เข้าไปได้ยังไง” มีข่าวลือว่าฟิลิปถึงขั้นต้องสวดมนต์และแขวนเครื่องรางของขลังเต็มห้องเพื่อทำหน้าที่กับภรรยา แม้จะเริ่มต้นไม่สวยอย่างที่คิดแต่กาลเวลากลับพิสูจน์ว่าการแต่งงานกับเจ้าหญิงที่ใจกว้างอย่างลิซ่าล็อตทำให้ความสัมพันธ์แบบ ‘สามสามีภรรยา’ ไปได้ดีกว่าที่คาด
เจ้าหญิงแห่งพาลาทีนยอมรับรสนิยมทางเพศของสามีและแทนที่จะตามหึงหวงแบบเฮนเรียตตา ชาร์ล็อตยอมถอยให้บรรดาคนรักของสามี เธอย้ายออกจากห้องนอนของฟิลิปหลังทั้งคู่มีลูกคนที่ 3 ลิซ่าล็อตสนิทสนมและเข้ากันได้ดีกับลูกๆ ทุกคน รวมไปถึงลูกติดของฟิลิปกับภรรยาคนก่อน
ฟิลิปยังมั่นคงในรสนิยมการแต่งหญิงและมักหยิบยืมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจากภรรยา ในทางตอบแทน เขาเข้ามาเป็นผู้ดูแลเครื่องแต่งกายของภรรยาและซื้อหาเสื้อผ้าที่ ‘มีรสนิยม’ มากกว่าให้เธอด้วยตัวเอง
ฟิลิปเป็นเจ้าชายที่มีความสามารถด้านการค้าและการรบ เขานำทัพออกศึกหลายครั้งและได้ชัยชนะหลายหน เกียรติยศและความสำเร็จด้านการลงทุนของฟิลิปทำให้ตระกูลออร์เลอ็องกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่มั่งคั่งและมั่นคงที่สุดในฝรั่งเศส ทายาทของฟิลิปทั้งสี่จากภรรยาทั้งสองคนล้วนแต่งงานกับครอบครัวสำคัญในยุโรปทำให้ทุกวันนี้หากย้อนสายตระกูลกลับไป บรรดาราชวงศ์ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกเช่น ราชวงศ์บูร์บงสายสเปน ราชวงศ์บูร์บง-ปาร์มา (เคยปกครองพื้นที่ทางตอนเหนือของอิตาลี) และราชวงศ์ซาวอย ล้วนมีความเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับฟิลิปจนทำให้พระองค์ได้รับสมญานามว่า “สมเด็จตาแห่งยุโรป”
ฟิลิปที่ 2 ดยุกแห่งออร์เลอ็อง ลูกชายคนเดียวของฟิลิปและลิซ่าล็อต สืบทอดบรรดาศักดิ์จากพระบิดา สายตระกูลออร์เลอ็องเป็นสายตระกูลย่อยของราชวงศ์บูร์บงที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ฝรั่งเศสในปัจจุบันเนื่องจากกษัตริย์ฝรั่งเศสคนสุดท้าย พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส สืบเชื้อสายมาจากสายตระกูลนี้ ทำให้ในปัจจุบันหากมีการฟื้นฟูราชวงศ์ฝรั่งเศสขึ้นมาใหม่ ความเป็นไปได้หนึ่งสำหรับผู้ที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์คือเจ้าชายฌ็อง แห่งออร์เลอ็อง ผู้ดำรงตำแหน่งเคานต์แห่งปารีสคนปัจจุบัน (อ่านความเป็นไปได้ในการสืบราชบัลลังก์ฝรั่งเศสแบบอื่นๆ ได้ที่นี่)
References: