วินสตัน เชอร์ชิล กับเจ้าหญิงไดอาน่า(พระนามเดิมเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์) ไม่ได้มีจุดร่วมคล้ายกันแค่เป็นบุคคลสำคัญที่มีภาพลักษณ์เกี่ยวพันกับประเทศอังกฤษ อันที่จริงนามสกุล ‘เชอร์ชิล’ ของวิสตัน เชอร์ชิล กับนามสกุล ‘สเปนเซอร์’ ของเจ้าหญิงไดอาน่า ยังเป็นสายย่อยของตระกูลใหญ่ที่มีความสำคัญย้อนกลับไปไกลตั้งแต่ยุคสมัยของราชวงศ์สจ๊วต ตระกูลนี้มีชื่อเรียกในปัจจุบันว่า ‘สเปนเซอร์-เชอร์ชิล’ ปัจจุบันเป็นผู้ครองตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระ
‘ตระกูลสเปนเซอร์’ และ ‘ตระกูลเชอร์ชิล’ แรกเริ่มเดิมทีเป็นสองตระกูลขุนนางที่มีผู้สืบทอดของตัวเอง อย่างไรก็ดีสองตระกูลนี้รวมเข้าด้วยกันเนื่องจากผู้สืบทอดหลักของทั้งสองตระกูลเกี่ยวดองกันผ่านการสมรส ตระกูลเชอร์ชิลสืบเชื้อสายมาจากจอห์น เชอร์ชิล ดยุกที่ 1 แห่งมาร์ลบะระ ขุนนางคนสำคัญที่สนับสนุนควีนแมรี่และคิงวิลเลียมในช่วงการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์
จอห์น เชอร์ชิลออกรบให้อังกฤษหลายครั้งหนึ่งในนั้นคือสงครามสืบราชบัลลังสเปนซึ่งทำให้เขาได้รับแต่งตั้งเป็นดยุกแห่งมาร์ลบะระในยุคสมัยของควีนแอนน์ – ราชินีคนสุดท้ายของราชวงศ์สจ๊วต
จอห์น เชอร์ชิลมีภรรยาที่โด่งดังไม่แพ้กันคือซาราห์ เชอร์ชิล ซาราห์คนนี้เป็นเพื่อนสนิทและผู้รับใช้ใกล้ชิดของควีนแอนน์ ความสัมพันธ์ระหว่างควีนแอนน์และซาราห์ที่ดูจะมากเกินไปนำไปสู่การตั้งคำถามที่ยังไขไม่ได้จนถึงปัจจุบันว่าทั้งสองอาจมีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อน (หนึ่งในหนังที่เล่าถึงความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาของทั้งสองคือ The Favourite ออกฉายเมื่อปี 2018)
ซาราห์ขึ้นชื่อว่าเป็นคนสวย ฉลาด เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ แต่เธอก็อารมณ์ร้อนอย่างร้ายกาจขนาดกล้าสั่งให้ควีนแอนน์ (ซึ่งเป็นคนคิดช้าและไม่ได้ฝีปากกล้าเท่าไหร่) หุบปากและออกคำสั่งด้วยตัวเอง กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งซาราห์มีปากเสียงกับดยุกแห่งมาร์ลบะระ เธอถึงขั้นตัดผมประชดต่อหน้า สร้างความตกใจให้บรรดาผู้รับใช้ที่เห็นเหตุการณ์
ความหัวร้อนของซาราห์พาให้ความสัมพันธ์ของเธอกับควีนแอนมาถึงจุดสิ้นสุดในภายหลัง เธอกับสามีถูกปลดออกจากทุกตำแหน่ง แต่ได้กลับมารับราชการและเป็นที่โปรดปรานอีกครั้งในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 1 – กษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกจากราชวงศ์ฮาโนเวอร์
จอห์นกับซาราห์ ดยุกและดัชเชสแห่งมาร์ลบะระแม้จะมีปากเสียงกันหลายครั้งแต่ทั้งสองก็เป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก เมื่อตอนที่ดยุกแห่งมาร์ลบะระเสียชีวิต มีเรื่องเล่าว่าซาราห์เปิดโลงศพของสามีเพื่อกล่าวคำอำลา เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเมื่อพบว่าเส้นผมที่เคยตัดไปเพื่อประชด ถูกสามีนำมาเก็บและมัดรวมกันไว้อย่างสวยงาม ดยุกแห่งมาร์ลบะระมีคำสั่งเสียให้วางเส้นผมของภรรยาไว้ในโลงศพเพื่อเป็นของแทนใจ
ชีวิตสมรส 40 ปีของจอห์นและซาราห์น่าเสียดายว่าไม่มีทายาทที่เป็นผู้ชาย ตามหลักแล้วตำแหน่งขุนนางสามารถสืบทอดผ่านทายาทชายเท่านั้น แต่เนื่องจากดยุกแห่งมาร์ลบะระเป็นบุคคลสำคัญที่ทำผลงานมากมายให้ประเทศ ราชสำนักจึงมีคำอนุญาตเป็นพิเศษให้ตำแหน่งของดยุกสามารถสืบทอดผ่านทางทายาทหญิงได้หนึ่งรุ่น ตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระจึงถูกสืบทอดโดยเฮนเรียตตา ดัชเชสที่ 2 แห่งมาร์ลบะระ ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของบ้าน
เฮนเรียตตา ดัชเชสที่ 2 แห่งมาร์ลบะระ ไม่มีลูกชาย เมื่อเธอเสียชีวิต ตำแหน่งของเธอจึงถูกส่งต่อให้หลานชาย – ชาร์ล สเปนเซอร์ ซึ่งในตอนนี้กลายเป็นทายาทสายหลักของสองตระกูลที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘ตระกูลเชอร์ชิล’ – ผู้สืบทอดตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระ และ ‘ตระกูลสเปนเซอร์’ – ผู้สืบทอดตำแหน่งเอิร์ลแห่งซันเดอร์แลนด์
ชาร์ล สเปนเซอร์ เป็นลูกชายของเลดี้แอนน์ เชอร์ชิล (น้องสาวคนรองของเฮนเรียตตา) บิดาของเขา – ชาร์ล สเปนเซอร์ เอิร์ลที่ 3 แห่งซันเดอร์แลนด์ ครองตำแหน่งสำคัญเป็นถึง Lord High Treasurer เทียบได้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน หลังชาร์ลกลายมาเป็นผู้สืบทอดหลักของทั้งสองบ้าน ตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระกับเอิร์ลแห่งซันเดอร์แลนด์จึงถูกควบรวมไว้ด้วยกัน ทำให้ในปัจจุบันผู้สืบทอดตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระจะได้เป็นเอิร์ลแห่งซันเดอร์แลนด์ด้วย
ชาร์ล สเปนเซอร์ หลังขึ้นเป็นดยุกที่ 3 แห่งมาร์ลบะระ และเอิร์ลที่ 4 แห่งซันเดอร์แลนด์ ก็ยังตัดสินใจใช้นามสกุลสเปนเซอร์ซึ่งเป็นนามสกุลของฝั่งพ่อต่อไป อย่างไรก็ดี ในยุคของหลานชาย – จอร์จ สเปนเซอร์ ตัวเขามีความคิดว่าตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระนั้นเป็นของตระกูลเชอร์ชิล ดังนั้นคงดีกว่าหากผู้สืบทอดตำแหน่งนี้ยังมีชื่อสกุลเชอร์ชิลต่อท้าย เมื่อจอร์จได้ขึ้นมาเป็นดยุกคนถัดไป(ดยุกคนที่ 5) ตัวเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลจากสเปนเซอร์ (เฉยๆ) ให้เป็น สเปนเซอร์-เชอร์ชิล เพื่อเน้นว่าสายเลือดของเขา สืบทอดโดยตรงมาจากดยุกแห่งมาร์ลบะระผู้โด่งดัง ทำให้ปัจจุบันผู้สืบทอดตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระ ใช้นามสกุลว่า สเปนเซอร์-เชอร์ชิล (ดยุกคนปัจจุบัน คือชาร์ล เจมส์ สเปนเซอร์-เชอร์ชิล ดยุกที่ 12 แห่งมาร์ลบะระ)
แล้วชื่อสกุล สเปนเซอร์(เฉยๆ) ของเจ้าหญิงไดอาน่า กับชื่อสกุล เชอร์ชิล ของวินสตันเชอร์ชิล มีที่มาจากตรงไหน?
ตระกูลสเปนเซอร์ของเจ้าหญิงไดอาน่า สืบเชื้อสายมาจากสายย่อยของตระกูลสเปนเซอร์อีกที ในตอนที่ชาร์ล สเปนเซอร์ได้รับสืบทอดทั้งตำแหน่งดยุกแห่งมาร์ลบะระจากป้า(เฮนเรียตตา เชอร์ชิล ดัชเชสที่ 2 แห่งมาร์ลบะระ) และตำแหน่งเอิร์ลแห่งซันเดอร์แลนด์จากพ่อ (ชาร์ล สเปนเซอร์ เอิร์ลที่ 3 แห่งซันเดอร์แลนด์) เขายังมีน้องชายอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้รับสืบทอดตำแหน่งอะไรเลยเพราะเป็นลูกคนรอง น้องชายของชาร์ลมีชื่อว่า จอห์น สเปนเซอร์ สายเลือดของจอห์น สเปนเซอร์ต่อมาเป็นขุนนางรับใช้ใกล้ชิดของราชวงศ์และได้รับพระราชทานตำแหน่งเอิร์ลสเปนเซอร์
ตำแหน่งเอิร์ลสเปนเซอร์แม้จะมีลำดับต่ำกว่าดยุกแห่งมาร์ลบะระ (ฐานันดรอังกฤษเรียงจากสูงไปต่ำคือ ดยุก/ดัชเชส, มาร์ควิส/มาร์เชอนิส, เอิร์ล/เคานต์เตส, ไวเคานต์ /ไวเคาน์เตส, และ บารอน/บารอเนส) แต่ในสมัยต่อมาสายตระกูลสเปนเซอร์กลับมีความสำคัญและในบางครั้งถือครองอำนาจมากกว่าตระกูลสเปนเซอร์-เชอร์ชิล ที่เป็นสายหลักเสียอีก ยกตัวอย่างเช่น ในยุคของจอห์น สเปนเซอร์ เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 3 ตัวเขาครองตำแหน่ง Second Lord of Treasury มีอำนาจคุมเรื่องค่าใช้จ่าย ในขณะที่จอร์ช สเปนเซอร์-เชอร์ชิล ดยุกที่ 6 แห่งมาร์ลบะระ เป็นแค่สมาชิกในสภาขุนนาง
ตระกูลสเปนเซอร์ของเจ้าหญิงไดอาน่าครองตำแหน่งที่ปรึกษาและผู้รับใช้ใกล้ชิดของราชวงศ์มาอย่างยาวนาน ในยุคของเฟรเดอริก สเปนเซอร์ เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 4 ตัวเขาสมรสกับแอดดาลี ซีมัวร์ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเฮนรี่ ฟิตรอยซ์ – ลูกชายนอกสมรสของพระเจ้าชาร์ลที่ 2 แห่งราชวงศ์สจ็วต ทำให้ตระกูลสเปนเซอร์ของเจ้าหญิงไดอาน่า มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์สจว็ตด้วยเช่นกัน (แม้จะเป็นสายลูกนอกสมรสก็ตาม)
ตำแหน่งเอิร์ลสเปนเซอร์ได้รับการสืบทอดต่อไปจนถึงยุคของจอห์น สเปนเซอร์ เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 8 ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงไดอาน่าเป็นลูกสาวคนที่สาม พระองค์มีพี่สาวสองคนคือซาราห์ และเจน ซาราห์นั้นเคยเดทกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลมาก่อนและเป็นผู้รับบทคิวปิดสื่อรักแนะนำเจ้าฟ้าชายชาร์ลให้รู้จักกับเจ้าหญิงไดอาน่า
เอิร์ลสเปนเซอร์คนปัจจุบัน (ชาร์ล สเปนเซอร์ เอิร์สเปนเซอร์ที่ 9) เป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้าหญิงไดอาน่าและเป็นทายาทชายเพียงคนเดียวของบ้าน ปัจจุบันผู้สืบทอดตำแหน่งเอิร์ลคนต่อไปคือหลุยส์ สเปนเซอร์ – ลูกชายคนโตของเอิร์ลที่ 9 ทายาทของตำแหน่งเอิร์ลสเปนเซอร์ยังคงใช้ชื่อสกุล ‘สเปนเซอร์’ (เฉยๆ) แบบไม่มีอะไรต่อท้ายมาจนถึงปัจจุบัน
ข้ามไปทางฝั่งวินสตัน เชอร์ชิล ตระกูลเชอร์ชิลของเขามีความใกล้ชิดกับดยุกแห่งมาร์ลบะระมากกว่า บิดาของวินสตัน เชอร์ชิล แรกเริ่มเดิมทีใช้นามสกุลสเปนเซอร์-เชอร์ชิล เพราะตัวเขาเป็นลูกชายคนที่ 3 ของดยุกที่ 7 แห่งมาร์ลบะระ ในฐานะลูกชายคนที่สาม บิดาของวินสตัน เชอร์ชิลมีโอกาสน้อยมากที่จะได้สืบทอดตำแหน่ง ดังนั้นจึงเปลี่ยนวิธีการใช้นามสกุลเป็น ‘เชอร์ชิล’ เฉยๆ ตัดเอาคำว่าสเปนเซอร์ออก สายตระกูลเชอร์ชิลของวินสตันนั้นไม่ได้มีที่นั่งในสภาขุนนาง ดังนั้นวินสตัน เชอร์ชิลจึงถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากสภาสามัญชน (หมายเหตุ: นามสกุลอย่างเป็นทางการของวินสตัน เชอร์ชิล ยังเป็น สเปนเซอร์-เชอร์ชิล เช่นเดียวกับลูกชายของเขา การใช้คำว่า ‘เชอร์ชิล’ เฉยๆ ในสื่อ น่าจะเป็นการบ่งบอกว่าเขามาจากสภาสามัญชน)
วินสตัน เชอร์ชิล เคยมีข่าวลือเกือบได้รับพระราชทานยศเป็นดยุกแห่งลอนดอนในยุคสมัยของควีนเอลิซาเบธที่ 2 อย่างไรก็ดี การตั้งยศขุนนางระดับดยุกให้เชอร์ชิลไม่เคยเกิดขึ้นจริง ปัจจุบันทายาทของวินสตัน เชอร์ชิลถือเป็นบุคคลธรรมดา ลูกชายและหลานชายของเขาจึงดำรงตำแหน่งในสภาสามัญชน
Reference:
แปลและเรียบเรียงจาก – Princess Diana Family Tree | Spencer-Churchill Dynasty