แมรี่ และ แอนน์ โบลีน ลูกสาวของโทมัส โบลีน นักการทูตและขุนนางคนสำคัญในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เป็นสองบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ฝากชื่อเสียง(และชื่อเสีย)จนเป็นที่ถกเถียงกันมาหลายร้อยปี แมรี่ โบลีน ถูกพูดถึงในฐานะหญิงสาวผู้โอบอ้อมอารี ในขณะที่แอน โบลีน เป็นหญิงสาวผู้ทะเยอทะยานและมุ่งมั่น แต่นั่นสะท้อนความสัมพันธ์ของสองพี่น้องมากแค่ไหน?
เป็นเวลาหลายร้อยปีที่แมรี่ โบลีน ถูกพูดถึงในฐานะตัวละครประกอบฉาก ชื่อของเธอถูกบดบังจากเงาของแอนน์ น้องสาวผู้ประสบความสำเร็จมากกว่า อันที่จริงชื่อของแมรี่ เพิ่งเป็นที่รู้จักหลังปี 2001 เมื่อนิยายดังของฟิลิปปา เกรกอรี่ The Other Boleyn Girl กลายเป็นหนังสือดังจนถูกนำไปสร้างเป็นหนังและซีรีส์ หนังสือและงานด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชีวิตและความเป็นมาของแมรี่เริ่มได้รับความนิยมหลังจากนั้น ในหนังสือของเกรเกอรี่ แมรี่ถูกบอกเล่าในฐานะหญิงสาวไร้เดียงสา ไม่มีประสบการณ์ทางเพศ เธอแต่งงานกับวิลเลียม แคร์รี่ตามความต้องการของครอบครัว ก่อนตกกระไดพลอยโจนต้องเป็นสนมลับของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 นิยายเล่าไปไกลโดยสรุปชัดว่าลูกๆ ทั้งสองของเธอ – แคทเธอรีน และ เฮนรี่ แคร์รี่ เป็นลูกที่เกิดกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
แมรี่ โบลีน ตัวจริงของเธอในประวัติศาสตร์
ตามประวัติศาสตร์ แมรี่ โบลีนเป็นลูกสาวคนโตของโทมัส โบลีน กับเอลิซาเบธ ฮาเวิร์ด เธอเกิดและเติบโตในครอบครัวชนชั้นสูง และเคยมีโอกาสใช้ชีวิตในต่างแดนมาก่อนน้องสาว ในปี 1514 แมรี่ติตามขบวนเสด็จของเจ้าหญิงแมรี่ ทิวเดอร์ – น้องสาวคนเล็กของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ไปฝรั่งเศส เจ้าหญิงในวัย 18 เข้าพิธีสมรสกับหลุยส์ที่ 12 กษัตริย์ชราที่มีอายุมากกว่าเธอเกือบ 40 ปี หลุยส์ที่ 12 สวรรคตเพียง 3 เดือนหลังแต่งงาน เจ้าหญิงแมรี่ ราชินีม่ายเดินทางกลับอังกฤษหลังจากนั้น แมรี่ โบลีน ไม่ได้ตามขบวนเสด็จกลับ เธอทำหน้าที่ต่อเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของราชินีคนใหม่ – พระนางโคลด มเหสีของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1
แอนน์ เดินทางสมทบกับพี่สาวไม่นานหลังจากนั้น เรามีบันทึกไม่มากนักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง แต่ชื่อเสียงของแมรี่ตามบันทึกของราชสำนักฝรั่งเศสห่างไกลคำว่าไร้เดียงสา บิชอปท่านหนึ่งถึงขั้นบันทึกว่า “พระเจ้าฟรานซิสที่ 1 เรียกแมรี่ โบลีนว่า นางร่านสวาท” ชื่อเสียงของแมรี่น่าเชื่อถือแค่ไหน? ควรระวังไว้ว่าบันทึกแรกเกี่ยวกับบทบาทของแมรี่ถูกเขียนหลังเจ้าตัวกลับอังกฤษไปร่วม 20 ปี คือในระหว่างที่แอนน์ขึ้นเป็นราชินี และทำให้อังกฤษแตกหักกับพระสันตะปาปา
แมรี่ถูกเรียกตัวกลับอังกฤษในราวปี 1520 เพื่อสมรสกับวิลเลียม แคร์รี่ ในขณะที่แอนน์ถูกเรียกตัวกลับอังกฤษในปี 1521 ทั้งสองกลับมาเคียงข้างกันอีกครั้ง ต่างได้รับบทบาทเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของราชินีอังกฤษองค์ปัจจุบัน – พระนางแคทเธอรีน แห่งอารากอน
แมรี่ในฐานะคนรักของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8
แมรี่เริ่มมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเฮนรี่ตั้งแต่ตอนไหน? เชื่อกันว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นในราวปี 1522 โดยมองจากฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของวิลเลียม แคร์รี่ เชื่อกันว่าเฮนรี่ที่ 8 มอบเงินจำนวนมากให้สามีของสตรีที่ทรงหมายปองเพื่อเป็นค่าปลอบใจ เงินจำนวนนี้ถูกมอบให้วิลเลียมอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1525 ซึ่งอาจตีความได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองยืดยาวถึงตอนนั้น แมรี่คลอดลูกสองคน คือ แคทเธอรีน แคร์รี่ ในปี 1523 และ เฮนรี่ แคร์รี่ในปี 1526 เฮนรี่ที่ 8 ไม่ได้มอบนามสกุล “ฟิชรอย” ให้เด็กทั้งสองดังที่เคยมอบให้ลูกนอกสมรสคนก่อนหน้า จึงทำให้ข้อสันนิษฐานที่ว่าเด็กทั้งสองเป็นเลือดเนื้อของกษัตริย์จริงหรือไม่ยังอยู่ในเครื่องหมายคำถาม
เรามีหลักฐานเพียงสองอย่างที่ยืนยันว่าเฮนรี่ที่ 8 เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับแมรี่ ครั้งแรกคือเมื่อพระองค์ต้องการสมรสกับแอนน์ โบลีน แต่ถูกคัดค้านว่าไม่สามารถทำได้เพราะทรงเคยมีสัมพันธ์กับพี่สาวของว่าที่เจ้าสาวมาก่อน ครั้งที่สองคือตอนที่เฮนรี่ถูกกล่าวหาว่าทรงนอนกับผู้หญิงจากบ้านโบลีนทุกคน ทรงตอบกลับว่าทรง “ไม่เคยนอนกับคนแม่”
แมรี่ โบลีนตกพุ่มม่ายในปี 1528 หลังสามีของเธอเสียชีวิตจากการป่วย แมรี่เปลี่ยนบทบาทจากภรรยาและชู้รักมาเป็นผู้สนับสนุนน้องสาวที่กำลังขึ้นสู่อำนาจ แมรี่เดินทางกลับฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1532 เธอติดตามขบวนเสด็จของพระเจ้าเฮนรี่และแอนน์ เพื่อเข้าพบพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 ขอเสียงสนับสนุนการแต่งงานของทั้งสอง แอนน์ โบลีนขึ้นเป็นราชินีอังกฤษหลังจากนั้น เธอคลอดลูกสาวคนแรก – เจ้าหญิงเอลิซาเบธในเดือนกันยายนปีถัดมา
แมรี่ในยุคเรืองอำนาจของควีนแอนน์ โบลีน
อำนาจของตระกูลโบลีนขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ดี แมรี่กลับทำสิ่งที่หลายคนตั้งคำถาม เธอแต่งงานอย่างลับๆ กับชายต่ำศักดิ์ – เซอร์วิลเลียม สแตมฟอร์ด การกระทำของแมรี่ตบหน้าตระกูลโบลีนฉากใหญ่ ทายาทครอบครัวที่สำคัญ เต็มไปด้วยอำนาจและความทะเยอทะยาน กลับทำเรื่องไร้สาระอย่างการแต่งงานเพื่อความรัก? ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันว่าแมรี่ทำแบบนี้ไปทำไม เธอรักชายคนนี้หมดหัวใจหรือแค่บังเอิญตั้งท้องเลยต้องแต่งงานเพื่อกลบเกลื่อน ครอบครัวโบลีนตอบโต้การกระทำของแมรี่อย่างรุนแรง เธอถูกขับออกจากราชสำนัก ถูกตัดเงินปี และต้องใช้ชีวิตตัดขาดจากครอบครัว
อย่างไรก็ดีความฉาวของแมรี่กลายเป็นเรื่องเบาเมื่อเทียบกับคดีฟ้องร้องในปี 1536 เมื่อแอนน์ และน้องชายอีกคน – จอร์จ โบลีน ถูกกล่าวหาว่าคบชู้ก่อนถูกประหารด้วยข้อหากบฏ เพื่อทำให้เรื่องเลวร้ายกว่า เจ้าหญิงเอลิซาเบธ – ทายาทคนเดียวของแอนน์ถูกประกาศว่าเป็นลูกนอกสมรส โทมัส โบลีน บิดาของสองสาวให้อภัยแมรี่หลังจากนั้น แมรี่กลายเป็นทายาทคนสุดท้ายของครอบครัว เธอไม่ได้กลับไปทำหน้าที่ในราชสำนัก แต่ใช้ชีวิตอย่างสงบกับครอบครัวกระทั่งเสียชีวิตไปในปี 1543
แคทเธอรีน แคร์รี่ ลูกสาวคนโตของแมรี่เคยทำหน้าที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของแอนน์แห่งคลีฟ ราชินีคนที่ 4 ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เธอสมสรกับฟรานซิส โนวส์ ทั้งสองมีทายาทมากมาย หนึ่งในนั้นคือลาทีส โนวส์ เคาน์เตสแห่งเอสเซ็กส์ คู่สมรสของโรเบิร์ด ดัดลีย์ ชายคนโปรดของควีนเอลิซาเบธที่ 1
เฮนรี่ แคร์รี่ ลูกชายนรองของแมรี่มีชีวิตที่ดีกว่าพี่สาว เขาได้รับตำแหน่งสำคัญในราชสำนักของควีนเอลิซาเบธที่ 1 ซึ่งตามมาด้วยที่ดินจำนวนมากและเงินปีมูลค่ามหาศาล
มรดกของแมรี่ และแอนน์ โบลีน สายเลือดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์
กลับมาที่คำถามสำคัญ ใครกันคือพี่น้องตระกูลโบลีนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า? คำถามนี้อาจเริ่มจากการนิยมควาหมายของคำว่า “ประสบความสำเร็จ” หากความสำเร็จหมายถึงการรอดชีวิต แน่นอนว่าแมรี่เลือกทางรอดที่ปลอดภัยกว่าน้องสาว แต่หากความสำเร็จหมายถึงชื่อเสียง(ทั้งก่อนและหลังเสียชีวิต) อำนาจ และความมั่งคั่ง แมรี่คงห่างชั้นน้องสาวไปไกล อย่างไรก็ดีหากเรามองความสำเร็จในแง่ของการสืบทอดสายเลือด และสิ่งที่ทั้งสองมอบให้คนรุ่นหลัง เราอาจพบว่าคำถามนี้ตอบยากอยู่สักหน่อย
แอนน์เป็นพระมารดาของควีนเอลิซาเบธที่ 1 ผู้ปกครองที่มีความสามารถและเป็นที่จดจำมากที่สุดพระองค์หนึ่งของอังกฤษ เอลิซาเบธนำอังกฤษไปสู่ความยิ่งใหญ่ ปูเส้นทางแห่งความสำเร็จให้ประเทศเกรียงไกรกว่าชาติใดในยุคเดียวกัน น่าเสียดายที่เอลิซาเบธไม่มีทายาท (อย่างน้อยก็ทายาทอย่างเป็นทางการ) สายเลือดของแอนน์จึงจบลงที่ตรงนี้
แมรี่สืบทอดสายเลือดของเธอต่อผ่านแคทเธอรีนและเฮนรี่ ทั้งสองมีทายาทมากมาย ต่างเป็นสายเลือดสำคัญของราชสำนักอังกฤษในยุคต่างๆ ทุกวันนี้สายเลือดของแมรี่ยังคงสืบทอดต่อไป มีบุคคลร่วมสมัยมากมายที่สามารถสืบย้อนตัวเองกลับไปได้ไกลถึงแมรี่ โบลีน
เราอาจกล่าวว่า ใช่ แต่สายเลือดของแมรี่ไม่เคยไปไกลถึงการเป็นกษัตริย์อังกฤษ คุณอาจประหลาดใจหากทราบว่า อันที่จริง สายเลือดของแมรี่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์…..
ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สืบทอดสายเลือดของตระกูลโบลีนผ่านทางพระมารดา – เอลิซาเบธ โบวส์-ลีออน ตระกูลโบวส์-ลีออน ของพระองค์สืบทอดสายเลือดมาจากแคทเธอรีน แคร์รี่ผ่านทางลูกสาวคนดัง – ลาทีส โนวส์ คู่สมรสของโรเบิร์ต ดัดลีย์ น่าสนใจที่จะบอกว่า เจ้าหญิงไดอาน่าเองก็สืบเชื้อสายมาจากแมรี่ โบลีน ผ่านทางสายตระกูลสเปนเซอร์ของเธอ ทำให้เจ้าชายวิลเลียมและแฮร์รี่ ต่างมีสายเลือดของแมรี่โบลีนทั้งจากพระบิดา – เจ้าฟ้าชายชาร์ล และพระมารดา – เจ้าหญิงไดอาน่า
แล้วคุณล่ะคิดว่ายังไง? แอนน์กับแมรี่ ใครคือลูกสาวที่ตระกูลโบลีนความภาคภูมิใจมากกว่ากัน
References: